แนะนำร้านซ่อมมือถือ ไอโฟน ไอแพด โน้ตบุ๊ค MacBook เชียงใหม่ ทุกรุ่น ทุกยี่ห้อ ราคาถูก

ในยุคที่เทคโนโลยีเป็นส่วนหนึ่งที่ไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้ในชีวิตประจำวัน เมื่อมือถือหรืออุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์เสียหาย หรือมีปัญหาการใช้งาน หาหนทางซ่อมมือถือ ไอโฟน ไอแพด โน้ตบุ๊ค Macbook ในราคาที่เหมาะสมก็เป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่ดี วันนี้ เราจะมาแนะนำร้านซ่อมมือถือและอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ ที่อยู่ในเชียงใหม่ ที่มีคุณภาพและราคาที่เหมาะสม

วิธีเลือกร้าน ซ่อมมือถือ ในเชียงใหม่

มือถือและอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ถือเป็นเครื่องมือที่สำคัญในชีวิตประจำวันของเรา แต่เมื่อเกิดปัญหาหรือเสียหาย การหาร้านซ่อมที่มีคุณภาพและเชื่อถือได้ก็เป็นเรื่องที่สำคัญไม่น้อย วันนี้เราจะมาแนะนำวิธีเลือกร้านซ่อมมือถือในเชียงใหม่ ที่คุณสามารถใช้เป็นแนวทางในการเลือกร้านซ่อมดังนี้

1. ความเชี่ยวชาญและประสบการณ์ในการซ่อมมือถือ

  • ตรวจสอบว่าร้านซ่อมมีประสบการณ์การทำงานในยี่ห้อหรือรุ่นของมือถือที่คุณใช้หรือไม่
  • สอบถามหรือตรวจสอบจากรีวิวว่ามีความเชี่ยวชาญในการซ่อมปัญหาที่คุณเผชิญหรือไม่

2. รีวิวและคำแนะนำจากผู้ซ่อมมือถือจริง

  • อ่านรีวิวออนไลน์จากผู้ที่เคยใช้บริการแล้ว เช่น Pantip, Google Reviews หรือ Facebook
  • ถามคำแนะนำจากเพื่อนหรือคนรู้จักที่เคยใช้บริการ

3. ราคาและการประเมินราคาในการซ่อมโทรศัพท์มือถือ

  • สอบถามราคาและเปรียบเทียบกับร้านอื่นๆ
  • หาร้านที่มีบริการประเมินราคาหรือให้คำปรึกษาฟรี

4. การรับประกันหลังการซ่อมมือถือ

  • ตรวจสอบว่ามีการให้ประกันการซ่อมและอะไหล่หรือไม่
  • ถามระยะเวลาของการรับประกัน

5. ทำเลและสถานที่ซ่อมโทรศัพท์

  • เลือกร้านที่ตั้งอยู่ในทำเลที่สะดวกสบายและง่ายต่อการเดินทาง
  • ตรวจสอบว่ามีบริการส่ง-รับอุปกรณ์หรือไม่

6. บริการหลังการขายหรือหลังการซ่อมโทรศัพท์มือถือ

สอบถามเกี่ยวกับวิธีการดูแลหลังการซ่อม หรือว่ามีการให้คำปรึกษาเพิ่มเติมหลังจากการซ่อมหรือไม่

การเลือกร้านซ่อมมือถือไม่ใช่เรื่องที่ยากถ้าคุณได้พิจารณาหลาย ๆ ปัจจัยที่ได้กล่าวมาข้างต้น โดยการดูรีวิว ตรวจสอบความเชี่ยวชาญ ราคา และการรับประกัน คุณจะสามารถเลือกร้านซ่อมมือถือในเชียงใหม่ที่เหมาะสมและคุ้มค่าได้อย่างมั่นใจ

ข้อควรรู้ก่อนส่ง ซ่อมไอโฟน iPhone ควรทำอย่างไรบ้าง

ปัจจุบันนี้เราพูดได้เลยว่ามือถือเป็นสิ่งจำเป็นแทบจะขาดไม่ได้ การซ่อมมือถือเมื่อมีปัญหาจึงเป็นเรื่องที่ต้องดูแลอย่างระมัดระวัง ถ้าคุณใช้ iPhone แล้วพบว่ามีปัญหาที่ต้องซ่อม ทำอย่างไรก่อนส่งซ่อมคือหนึ่งในเรื่องที่คุณควรทราบ

1. สำรองข้อมูล (Backup)ไอโฟน

  • ใช้ iCloud หรือ iTunes ในการสำรองข้อมูลให้เป็นปัจจุบัน
  • ตรวจสอบให้แน่ใจว่าทั้งรูปภาพ ข้อความ แอพ และข้อมูลอื่น ๆ ได้รับการสำรองอย่างถูกต้อง

2. ปิด Find My iPhone

ไปที่ ‘Settings’ > คลิกบนชื่อผู้ใช้งานของคุณ > ‘Find My’ > ‘Find My iPhone’ และทำการปิดฟีเจอร์นี้

3. ถอด SIM Card และ Memory Card (ถ้ามี)

ถอด SIM Card และ Memory Card ออกจากเครื่อง เนื่องจากไม่จำเป็นต้องให้ซ่อมร่วมกับเครื่อง

4. ลบข้อมูลส่วนบุคคลในโทรศัพท์ไอโฟน

ถ้าปัญหาที่ต้องซ่อมไม่ส่งผลต่อการลบข้อมูล ควรลบข้อมูลที่เป็นส่วนบุคคลออกจากเครื่อง

5. ศึกษาปัญหาและราคาในการซ่อมไอโฟน

ลองหาข้อมูลราคาและระยะเวลาที่จำเป็นในการซ่อม เพื่อให้คุณได้รับความรู้และทำการตัดสินใจได้ดีขึ้น

6. เตรียมอุปกรณ์และเอกสารของโทรศัพท์ไอโฟน

เตรียมอุปกรณ์ที่เกี่ยวข้องไปด้วย อาทิ สายชาร์จ, หัวชาร์จ และหากมีใบรับประกันหรือเอกสารที่เกี่ยวข้อง ควรนำไปด้วย

ควรจัดการให้ดีที่สุด เริ่มต้นจากการสำรองข้อมูล ปิด Find My iPhone ถอด SIM Card และ Memory Card ลบข้อมูลส่วนบุคคล และเตรียมอุปกรณ์และเอกสารที่จำเป็น การดูแลรักษาอย่างถูกวิธีจะช่วยให้คุณมั่นใจมากขึ้นเมื่อส่ง iPhone ของคุณเข้าร้านซ่อม

รวมทุกอาการเสีย โทรศัพท์มือถือ มีอะไรบ้าง

โทรศัพท์มือถือเป็นอุปกรณ์ที่มีความซับซ้อนและมีหลายส่วนประกอบ ทำให้มีโอกาสที่จะเกิดอาการเสียหลายประการ ดังนี้

1. หน้าจอโทรศัพท์แตกหรือผิดปกติ

  • หน้าจอแตกหรือแตกลาย
  • หน้าจอแสดงภาพไม่ถูกต้องหรือมีสีผิดปกติ
  • หน้าจอสัมผัสไม่ได้

2. เสียงโทรศัพท์ไม่ดัง

  • ไม่มีเสียงหรือเสียงขาด ๆ
  • ไม่สามารถฟังเพลงหรือดูวิดีโอได้
  • ไมโครโฟนหรือลำโพงเสีย

3. โทรศัพท์มือถือร้อนมาก

  • ชาร์จแบตเตอรี่โทรศัพท์มือถือแล้วร้อน
  • เปิดแอพพลิเคชันในมือถือเล่นแล้วร้อนมาก

4. หน่วยความจำและเก็บข้อมูลของโทรศัพท์หาย

  • SD Card หรือหน่วยความจำภายในเสียหาย
  • ปัญหาการเข้าถึงข้อมูลหรือข้อมูลหาย

5. ซอฟต์แวร์โทรศัพท์มือถือล่มไม่ทำงาน

  • ระบบปฏิบัติการค้างหรือล่ม
  • แอพพลิเคชันไม่ทำงานอย่างถูกต้อง
  • ปัญหาในการอัพเดตซอฟต์แวร์

6. โทรศัพท์มือถือเชื่อมต่อ Wi-Fi หรือ Bluetooth ไม่ทำงาน

  • Wi-Fi หรือ Bluetooth ไม่ทำงาน
  • ไม่สามารถรับสัญญาณโทรศัพท์ได้
  • ปัญหาการเชื่อมต่อกับอุปกรณ์อื่น ๆ

7. ปุ่มโทรศัพท์และส่วนควบคุมอื่นๆพัง

  • ปุ่ม Home, Volume, Power ไม่ทำงาน
  • ปัญหาเกี่ยวกับช่องชาร์จหรือช่องเสียบหูฟัง

8. กล้องโทรศัพท์เสีย

  • กล้องถ่ายภาพไม่ชัดหรือมีจุดสี
  • ไม่สามารถเปิดกล้องได้

9. แบตเตอรี่โทรศัพท์เสื่อม

  • ชาร์จไม่เต็มหรือชาร์จไม่ได้
  • แบตเตอรี่หมดเร็วหรือบวม
  • อุณหภูมิแบตเตอรี่สูงหรือต่ำเกินไป

10. อาการอื่น ๆของโทรศัพท์มือถือ

  • อาการอื่น ๆ ที่ไม่สามารถจำแนกได้เอง

หากพบปัญหาดังกล่าว ควรจัดการโดยการส่งไปซ่อมที่ร้านที่เชี่ยวชาญและได้รับการรับรอง เพื่อป้องกันปัญหาที่อาจเกิดขึ้นต่อไป

ปัญหาซ่อม โน๊ตบุ๊ค Notebook ที่เจอบ่อย สำหรับชาวเชียงใหม่

โน้ตบุ๊คเป็นอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ที่มีความซับซ้อนและสำคัญอย่างหนึ่งในการทำงานและชีวิตประจำวัน แต่เหมือนกับอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์อื่น ๆ โน้ตบุ๊คก็มีโอกาสที่จะเสียหายหรือเกิดปัญหาได้ ในบทความนี้ เราจะมาทำความรู้จักกับปัญหาที่เจอบ่อยในการซ่อมโน้ตบุ๊ค

  1. ปัญหาโน๊ตบุ๊คในการชาร์จแบตเตอรี่ ไม่สามารถชาร์จแบตเตอรี่ได้ แบตเตอรี่หมดเร็วหรือไม่สามารถเก็บประจุได้
  2. ปัญหาหน้าจอ Notebook หน้าจอแสดงภาพไม่ถูกต้อง หรือมีสีผิด หน้าจอดับหรือไม่แสดงภาพ
  3. ปัญหาด้านซอฟต์แวร์ของโน้ตบุ๊ค ระบบปฏิบัติการค้าง หรือรีสตาร์ทเอง ปัญหาเรื่องไวรัสและมัลแวร์
  4. ปัญหาด้านเสียงลำโพง Notebook ไม่ทำงาน หรือมีเสียงผิดปกติ
  1. โน๊ตบุ๊คมีปัญหาการเชื่อมต่อ ปัญหาเชื่อมต่อ Wi-Fi, Bluetooth หรือพอร์ต USB
  2. โน๊ตบุ๊คมีปัญหาด้านคีย์บอร์ดและเมาส์ คีย์บอร์ดไม่ทำงานหรือมีปุ่มที่ติด ปัญหาเมาส์แพด (Touchpad) ไม่สามารถควบคุมได้
  3. Notebook มีปัญหาด้านการเก็บข้อมูล ฮาร์ดไดรฟ์เสียหาย หรือข้อมูลหาย

การรู้จักปัญหาที่เจอบ่อยในการซ่อมโน้ตบุ๊คจะช่วยให้คุณได้รับข้อมูลที่จำเป็นสำหรับการดูแลและบำรุงรักษาเครื่องของคุณให้ยืนยาวและป้องกันปัญหาที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต หากพบปัญหาเหล่านี้ ควรนำไปซ่อมที่ร้านที่มีความเชี่ยวชาญและได้รับการรับรองเพื่อความปลอดภัยและคุณภาพในการซ่อม

ความคุ้มค่าของการซ่อม MacBook เทียบกับการซื้อเครื่องใหม่

เครื่อง MacBook ของ Apple เป็นสินค้าที่มีคุณภาพและราคาสูง ดังนั้น หากเกิดปัญหาหรือเสียหาย หลายคนจึงอาจสับสนว่าควรจะเลือกซ่อมหรือซื้อเครื่องใหม่ ในบทความนี้ เราจะมาทำความเข้าใจความคุ้มค่าของการซ่อม MacBook เทียบกับการซื้อเครื่องใหม่

1. ข้อดีและข้อเสียของการซ่อม MacBook

ข้อดีการซ่อม MacBook มีดังต่อไปนี้

  1. ประหยัดต้นทุน ซ่อมเครื่องเดิมมักจะถูกกว่าการซื้อเครื่องใหม่อย่างแน่นอน
  2. คงค่าข้อมูล ไม่ต้องย้ายหรือแบ็กอัพข้อมูลใหม่
  3. สิ่งแวดล้อม ลดการสร้างขยะอิเล็กทรอนิกส์

ข้อเสียการซ่อม MacฺBook มีดังต่อไปนี้

  1. เรื่องประกัน อาจจะไม่มีประกันหลังจากซ่อม
  2. อายุการใช้งาน เครื่องที่ซ่อมอาจมีอายุการใช้งานที่สั้นกว่าเครื่องใหม่

2. ข้อดีและข้อเสียของการซื้อ MacBook ใหม่

ข้อดีของการซื้อ MacBook ใหม่ มีดังต่อไปนี้

  1. ประกันจาก Apple ได้ประกันจาก Apple อย่างเป็นทางการ
  2. เทคโนโลยีใหม่ล่าสุด – ได้ฟีเจอร์และสเปคที่ทันสมัย
  3. อายุการใช้งานที่ยาวนาน – อายุการใช้งานของเครื่องใหม่มักจะยาวนานกว่า

ข้อเสียซื้อ Macbook ใหม่ มีดังต่อไปนี้

  1. ราคาสูง – ต้องเสียต้นทุนสูงในการซื้อ
  2. ข้อมูลเก่า – ต้องย้ายข้อมูลจากเครื่องเดิม
  3. เสียหายต่อสิ่งแวดล้อม – ขยะอิเล็กทรอนิกส์เพิ่มขึ้น

การตัดสินใจระหว่างการซ่อมหรือซื้อ Macbook ใหม่ ขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย เช่น อายุการใช้งาน ปัญหาที่พบ และงบประมาณที่คุณมี การวิเคราะห์และเปรียบเทียบจึงจำเป็นในการตัดสินใจที่เหมาะสมและคุ้มค่าที่สุด

ร้านซ่อมมือถือ ไอโฟน ไอแพด โน้ตบุ๊ค Macbook เชียงใหม่ Byช่างเอก CM Mobile

  • ช่างเอก CM Mobile นับเป็นหนึ่งในร้านซ่อมอุปกรณ์ที่มีชื่อเสียงและได้รับการไว้วางใจอย่างแน่นอนในเชียงใหม่
  • ด้วยประสบการณ์ในการให้บริการมากกว่า 10 ปี
  • ทีมช่างเทคนิคของเรามีความเชี่ยวชาญและสามารถแก้ไขปัญหาที่ซับซ้อนได้
  • ราคาที่เราให้บริการเป็นราคาพิเศษ และยังรับรองคุณภาพการซ่อมที่ดีที่สุด จึงเป็นที่โดยลูกค้าให้การไว้วางใจ
  • เรารับซ่อมไอโฟนอาการต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นปัญหาหน้าจอ, แบตเตอรี่, หรือปัญหาซอฟต์แวร์
  • เรารับซ่อมซ่อมไอแพด การซ่อมและการอัพเกรดสเปค และการแก้ปัญหาในระดับซอฟต์แวร์
  • ซ่อมโน้ตบุ๊คและ Macbook ไม่ว่าจะเป็นการเปลี่ยน SSD, RAM และอาการอื่นๆ
  • ความพึงพอใจของลูกค้าเป็นสิ่งสำคัญที่สุดสำหรับเรา ดังนั้นรับรองคุณภาพจากร้านของเราได้เลย
  • มีเจ้าหน้าที่คอยให้คำปรึกษาทุกอาการเสียของ ไอโฟน ไอแพด โน้ตบุ๊ค Macbook

ด้วยบริการที่เป็นมืออาชีพและราคาที่เป็นกันเอง ช่างเอก CM Mobile เชียงใหม่ เป็นที่ยอมรับและได้รับความไว้วางใจจากลูกค้ามาเป็นเวลานาน ติดต่อเราวันนี้เพื่อสัมผัสประสบการณ์การซ่อมที่ไม่เหมือนใคร! สามารถปรึกษาได้ตลอดเวลาทำการได้เลย หรือติดต่อเราได้ที่ ชั้น3 ติดๆกับลิฟต์แก้วขึ้นลิฟต์แก้วมาอยู่ซ้ายมือ เซ็นทรัลเชียงใหม่ แอร์พอร์ต (ห้องtemp362/1)


รีวิวงานซ่อมจริง ที่ลูกค้าส่งซ่อมกับร้าน Tace care service

ร้านซ่อมโทรศัพท์มือถือเชียงใหม่ ไอโฟน ไอแพดเชียงใหม่ By ช่างเอก CM Mobile

ติดต่อ Take Care  Service ได้ที่
ชั้น3 ติดๆกับลิฟต์แก้วขึ้นลิฟต์แก้วมาอยู่ซ้ายมือ

เซ็นทรัลเชียงใหม่ แอร์พอร์ต (ห้องtemp362/1)
เลขที่2 252-252/1 ถนน.มหิดล ตำบล.หายยา
อำเภอ.เมืองเชียงใหม่ จังหวัด.เชียงใหม่ 50100
TEL. 090-526-6789  ช่างเอก
          095-849-4638  พัช

เปิดบริการทุกวัน
วันจันทร์ – วันศุกร์
เปิดบริการเวลา 11:00 น. – 21:00 น.

วันเสาร์ – วันอาทิตย์ – วันหยุดนักขัตฤกษ์
เปิดบริการเวลา 10:00 น. – 21:00 น.

Continue Readingแนะนำร้านซ่อมมือถือ ไอโฟน ไอแพด โน้ตบุ๊ค MacBook เชียงใหม่ ทุกรุ่น ทุกยี่ห้อ ราคาถูก

10 อาการเสียของโทรศัพท์มือถือ ยอดนิยม อัพเดท 2023-2024

นับได้ว่าเป็นยุคสมัยที่โทรศัพท์มือถือมีอิทธิพลต่อชีวิตของผู้คนส่วนใหญ่เลยก็ว่าได้ เนื่องจากโทรศัพท์มือถือมีผู้ผลิตที่หลากหลาย ผลิตให้มีคุณภาพตามราคา แต่ถึงแม้จะซื้อโทรศัพท์สมาร์ทโฟนเครื่องแพงแค่ไหนก็ตาม ก็ยังต้องพบเจอกับปัญหาอยู่ดี ปัญหาส่วนใหญ่เกิดจากพฤติกรรมการใช้งานของผู้ใช้งานเอง แต่ก็ขึ้นอยู่กับอายุการใช้งานของมือถือด้วย แต่จะทำอย่างไรเมื่ออยากให้มือถือเครื่องโปรดอยู่กับเราไปนานๆ เราจึงมี อาการเสียยอดฮิตโทรศัพท์มือถือ พร้อมสาเหตุที่คุณควรหลีกเลี่ยงดังนี้

1. ปัญหาโทรศัพท์มือถือ แบตเตอรี่เสื่อม

พบได้หลายอาการ และสาเหตุแตกต่างกันออกไป อาจเกิดได้จากปัญหาด้านซอฟต์แวร์ และฮาร์ดแวร์ดังนี้

1.แบตเตอรี่ชาร์จไม่เข้า สาเหตุเกิดจาก อุปกรณ์ชาร์จไฟที่ไม่ได้มาตรฐาน ชำรุดเสียหาย แบตเตอรี่เสื่อมสภาพตามอายุการใช้งาน หรือ พอร์ตชาร์จมี ฝุ่น สิ่งสกปรกอุดตันอยู่

2.แบตเตอรี่หมดไว เกิดจากการเปิดใช้งานหลายแอปพร้อมกันทำให้เครื่องร้อนเกินไป และการเสื่อมสภาพของแบตเตอรี่

3.แบตเสื่อม เกิดจากอายุการใช้งานของแบตลดลง การใช้งานที่หนักจนเกินไป และชาร์จแบตจากอุปกรณ์ชาร์จไฟที่ไม่ได้มาตรฐาน

4.แบตเตอรี่บวม เกิดจากการเสื่อมสภาพของแบตเตอรี่ สังเกตจากอาการแบตเตอรี่บวมจนดันฝาหลัง หรือหน้าจอขึ้นมานั้นเอง

2.โทรศัพท์มือถือเปิดไม่ติด

ปัญหาเปิดไม่ติดของโทรศัพท์มือถือมีสาเหตุหลักๆ ดังนี้:

  • แบตเตอรี่หมด หรือเสียหาย
  • ฮาร์ดแวร์เสียหาย เช่น การตกหรือวงจรภายในขัดข้อง
  • ปัญหาซอฟต์แวร์ อาทิ ระบบปฏิบัติการผิดพลาด หรือการอัปเดตไม่สำเร็จ
  • ความร้อนเกินจากการใช้งานต่อเนื่อง
  • เมมโมรีเต็ม ทำให้โทรศัพท์ทำงานไม่ปกติ

3. โทรศัพท์มือถือ ชาร์จแบตไม่เข้า

โทรศัพท์มือถือ ชาร์จแบตไม่เข้า เป็นปัญหาที่พบบ่อยในผู้ใช้งานโทรศัพท์มือถือ ซึ่งมีสาเหตุหลักๆมาจาก อุปกรณ์ชาร์จแบตที่ชำรุดเสียหาย หรือไม่ได้มาตรฐาน (ของปลอม) เกิดจากการเสื่อมสภาพของแบตเตอรี่ รวมไปถึงมือถืออาจเกิดความชื้น ทำให้เกิดฝุ่นเกาะสะสมบริเวณพอร์ตชาร์จ หากสะสมมากๆอาจส่งผลกระทบต่อพอร์ตชาร์จจนได้รับความเสียหายได้

4. มือถือเครื่องร้อนแบบไร้สาเหตุ

ถ้ามีอาการเครื่องร้อนขณะใช้งานหนัก ๆ เช่น เล่นเกม หรือดูวิดีโอความละเอียดสูง หรือขณะชาร์จแบตเตอรี่ ซึ่งถ้าไม่ร้อนมากเกินไปก็อาจยังไม่ถือว่าผิดปกติ แต่ถ้าเครื่องร้อนมากกว่าปกติทั้ง ๆ ที่ไม่เคยเป็นมาก่อน หรือร้อนแม้ในขณะที่ไม่ได้มีการใช้งานเครื่อง นั่นแปลว่าเครื่องอาจมีปัญหาเข้าแล้ว และการใช้ต่อไปก็อาจเกิดอันตรายจนถึงขั้นเครื่องระเบิดก็เป็นได้ ควรส่งซ่อมโดยด่วน หรือไม่ก็เปลี่ยนเครื่องใหม่

5. แบตเตอรี่โทรศัพท์มือถือบวม

ถ้าพบเห็นว่าแบตเตอรี่บวมจนดันฝาหลังมือถือบวมหรืออ้าออกมาแล้ว ให้หยุดใช้งานแล้วรีบเปลี่ยนแบตเตอรี่ทันที เพราะว่าอาการดังกล่าวไมใช่เพียงแต่แบตเตอรี่เสื่อม แต่อาจก่อให้เกิดอันตรายทั้งกับตัวเครื่องและตัวผู้ใช้เอง ซึ่งถ้าหากยังไม่คิดจะซื้อมือถือใหม่ก็ควรรับเปลี่ยนแบตเตอรี่ทันที

6. โทรศัพท์มือถือ ลำโพงไม่ดัง

โทรศัพท์มือถือ ลำโพงไม่ดัง เกิดจากมีฝุ่นหรือ สิ่งสกปรกเข้าไปอุดตัน หรือการเผลอเข้าไปตั้งค่าปิดเสียงแจ้งเตือน ดังนั้นลองตรวจสอบการตั้งค่าการแจ้งเตือน และทำความสะอาดบริเวณลำโพงให้สะอาด แล้วลองใช้งานลำโพงใหม่อีกครั้ง

7. โทรศัพท์หน้าจอแตก ปลี่ยนจอ Ipad Iphone

หนึ่งในปัญหายอดฮิตของคนใช้โทรศัพท์มือถือ คือ หน้าจอมือถือแตก โดยปกติแล้วการแตกของหน้าจอไม่ว่าจะเป็น จอ Ipad แตก จอ IPHONE แตก สามารถแบ่งได้เป็น 3 รูปแบบ คือ

1. กระจกจอโทรศัพท์แตก

เป็นรูปแบบที่เกิดขึ้นได้บ่อย มักเกิดจากการหล่นจากกระเป๋ากางเกงหรือกระเป๋าถือ โดยมือถือจะแสดงผลภาพได้ปกติ ไม่มีเส้นขีดที่หน้าจอ สีไม่เพี้ยน ทัชสกรีนยังใช้งานได้ดี สามารถซ่อมมือถืออาการแบบนี้ด้วยการเปลี่ยนกระจกอันใหม่เข้าไปแทน

2. จอแสดงผลมือถือแตก (จอชั้นใน)

เป็นรูปแบบที่เกิดขึ้นได้บ่อยเช่นกัน แต่มักเกิดจากการนั่งทับหรือของหนักๆ หล่นใส่หน้าจอ โดยจอที่แตกในลักษณะนี้ จะทำให้การแสดงผลผิดเพี้ยน ทัชสกรีนบางจุดไม่ได้ จอมืด มีจุดดำ มีเส้นขีดขึ้นทั่วจอ หรือจอกระพริบตลอดเวลา

3. แตกทั้งกระจกและจอแสดงผล

รูปแบบนี้ต้องส่งซ่อมมือถืออย่างเดียว เพราะใช้งานไม่ได้ อาการที่สังเกตได้ เช่น ภาพไม่ปกติ มีจุดดำ มีเส้นขีดขึ้นทั่วหน้าจอ เป็นต้น

8. ทัชสกรีนไม่ได้ ทัชไม่ติด ไม่ลื่น

อาการกดปุ่มไม่ได้ ทัชสกรีนไม่ได้ เกิดขึ้นได้จากหลายสาเหตุ เช่น

  • น้ำเข้าเครื่อง ทำให้การทำงานของระบบต่างๆ ภายในมือถือขัดข้อง
  • สมาร์ทโฟน ตกกระแทกบ่อย ทำให้มือถือเริ่มรวน
  • การมีสิ่งแปลกปลอม ฝุ่น หรือสิ่งสกปรก สะสมอยู่บนหน้าจอมากเกินไป
  • มีแอปพลิเคชั่นทำงานอยู่เป็นจำนวนมาก

9. มือถือตกน้ำ เปิดไม่ติด

แม้สมาร์ทโฟนรุ่นใหม่ๆ จะมีคุณสมบัติที่กันน้ำได้ แต่ก็มีมือถือจำนวนหนึ่งที่กันน้ำไม่ได้เช่นกัน ซึ่งเมื่อรู้ว่าสมาร์ทโฟนของเราตกน้ำ สิ่งที่ควรรีบทำคือ

  • หยิบมือถือขึ้นมาจากน้ำให้เร็วที่สุด
  • ปิดเครื่องทันที เพื่อลดความเสี่ยงงจากไฟฟ้าลัดวงจร
  • ถอดซิมการ์ด และ SD Card ออกจากตัวเครื่อง
  • เช็ดมือถือให้แห้งที่สุด หรือนำเครื่องใส่ถุงสุญญากาศ แล้วดูดอากาศออกให้หมด
  • และที่สำคัญคือ รีบส่งศูนย์ซ่อมมือถือ เพื่อป้องกันตัวเครื่องไม่ให้ชำรุดและเสียหายต่อไป

10. โทรศัพท์มือถือ กล้องพัง

สามารถแยกได้หลายอาการ ดังนี้

1.กล้องไม่โฟกัส เกิดจากมีฝุ่นติดอยู่บริเวณเลนส์กล้อง หรือถ่ายภาพวัตถุหรือบุคคลที่ใกล้จนเกินไปควรเว้นระยะห่างให้เหมาะสม

2.ภาพถ่ายเบลอ ภาพไม่ชัด อาจมีคราบสกปรกติดอยู่บริเวณเลนส์กล้อง หรือ ถ่ายภาพในที่ที่มีแสงสว่างไม่เพียงพอ

3.เข้าใช้งานกล้องมือถือไม่ได้ อาจเกิดจากหน่วยความจำเครื่องใกล้เต็ม ลองทำการเคลียร์แคช ลบข้อมูลที่ไม่จำเป็น หรือลบแอปพลิเคชันที่ไม่จำเป็น เพื่อเพิ่มหน่วยความจำเครื่อง

ทั้งหมดนี้คือปัญหายอดฮิตที่พบได้บ่อย หากใช้งานมือถืออย่างไม่ระมัดระวังอาจสูญเสียเงินทองไปกับการซ่อมมือถือก็เป็นได้ หวังเป็นอย่างยิ่งว่าบทความนี้จะเกิดประโยชน์ต่อผู้ใช้งานไม่มากก็น้อย หากเกิดปัญหาด้านซอฟต์แวร์ผู้ใช้งานสามารถแก้ไขเองได้ แต่หากเกิดปัญหาด้านฮาร์ดแวร์ในตัวเครื่อง ห้ามทำการแกะเครื่องเพื่อซ่อมเอง เพราะตัวเครื่องอาจเกิดความเสียหายจากการแกะที่ไม่ชำนาญ และอาจเสียหายมากกว่าเดิมได้ จึงควรส่งต่อให้ร้านซ่อมที่มีความชำนาญ ได้วิเคราะห์อาการและแก้ไข จะดีกว่า

ร้านร้านซ่อมโทรศัพท์มือถือเชียงใหม่ ไอโฟน ไอแพดเชียงใหม่ Byช่างเอกCM Mobile

  • ทุกการซ่อมหรือเปลี่ยนอะไหล่จะแจ้งให้ ลูกค้าทราบว่าใช้อะไรราคาเท่าไร
  • ไม่มีการย้อมแมวใช้อะไหล่เทียบ แล้วแจ้งเป็นอะไหล่แท้
  • ทีมงานมืออาชีพ มีประสบการณ์ในการซ่อมมือถือทุกอาการมาอย่างยาวนาน มีความเชี่ยวชาญในงานซ่อมโดยเฉพาะ
  • ตรวจเช็คและประเมินราคาให้ก่อนทุกครั้ง

รีวิวงานซ่อมจริง ที่ลูกค้าส่งซ่อมกับร้าน Tace care service

ร้านซ่อมโทรศัพท์มือถือเชียงใหม่ ไอโฟน ไอแพดเชียงใหม่ By ช่างเอก CM Mobile

ติดต่อ Take Care  Service ได้ที่
ชั้น3 ติดๆกับลิฟต์แก้วขึ้นลิฟต์แก้วมาอยู่ซ้ายมือ

เซ็นทรัลเชียงใหม่ แอร์พอร์ต (ห้องtemp362/1)
เลขที่2 252-252/1 ถนน.มหิดล ตำบล.หายยา
อำเภอ.เมืองเชียงใหม่ จังหวัด.เชียงใหม่ 50100
TEL. 090-526-6789  ช่างเอก
          095-849-4638  พัช

เปิดบริการทุกวัน
วันจันทร์ – วันศุกร์
เปิดบริการเวลา 11:00 น. – 21:00 น.

วันเสาร์ – วันอาทิตย์ – วันหยุดนักขัตฤกษ์
เปิดบริการเวลา 10:00 น. – 21:00 น.

ที่คนค้นหาเกี่ยวกับเนื้อหานี้ :

Continue Reading10 อาการเสียของโทรศัพท์มือถือ ยอดนิยม อัพเดท 2023-2024

7 วิธีนำมือถือเก่ามาใช้ประโยชน์ มีอะไรบ้าง

เมื่อโทรศัพท์มือถือที่ใช้อยู่เริ่มเก่า ประมวลผลช้า หรืออัปเกรด OS เวอร์ชันใหม่ ๆ ไม่ได้ ส่วนใหญ่แล้วจะตัดสินใจขายมือถือเครื่องเก่าเพื่อซื้อเครื่องใหม่แทน แต่ทราบกันหรือไม่ว่า เราสามารถปรับเปลี่ยนมือถือเครื่องเก่า ให้กลายเป็นอุปกรณ์สารพัดประโยชน์ได้หลายอย่าง ซึ่งทาง ร้านซ่อมโทรศัพท์มือถือเชียงใหม่ ไอโฟน ไอแพดเชียงใหม่ Byช่างเอกCM Mobile ได้รวบรวมวิธีการนำมือถือเครื่องเก่ากลับมาใช้ใหม่ ได้ดังนี้

1. ใช้มือถือเก่าเป็น กล้องติดรถยนต์

การนำมือถือเก่ามาเปลี่ยนใช้เป็นกล้องติดรถยนต์ (Dashcam) ไม่เพียงแต่เป็นการนำของเก่ามาใช้ประโยชน์ ยิ่งไปกว่านั้น กล้องในมือถือยุคปัจจุบันมีคุณภาพที่เหนือกว่ากล้องติดรถยนต์บางยี่ห้อ ดังนั้น การนำมือถือเก่ามาใช้เป็น Dashcam สามารถช่วยให้คุณบันทึกเหตุการณ์ต่างๆ ในระหว่างการเดินทางได้อย่างชัดเจน เมื่อเกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝัน ภาพวิดีโอที่ได้จะเป็นหลักฐานที่มีค่าในการแก้ไขปัญหา

 

2. ใช้มือถือเก่า เป็นกล้อง CCTV

การใช้มือถือ Android เก่าเป็นกล้องวงจรปิด (CCTV) สามารถทำได้ง่ายๆ ด้วยแอปพลิเคชันที่ชื่อว่า Alfred. เมื่อติดตั้งแอปพลิเคชันนี้, คุณสามารถวางมือถือไว้ในจุดที่ต้องการตรวจสอบ ไม่ว่าจะเป็นห้องนอนเด็ก, หรือจุดใดจุดหนึ่งในบ้าน และใช้เป็น baby monitor หรือกล้องวงจรปิดได้. ข้อดีของ Alfred คือมีฟีเจอร์ตัวจับการเคลื่อนไหว ซึ่งเมื่อตรวจสอบพบการเคลื่อนไหวในบริเวณที่ตั้งกล้อง, ระบบจะส่งการแจ้งเตือนไปยังมือถือหลักของคุณ ทำให้คุณสามารถตรวจสอบสิ่งที่กำลังเกิดขึ้นได้ทันที.

3. ใช้มือถือเก่าเป็น เครื่องเล่นเพลง

การนำมือถือเก่ามาใช้ใหม่เป็นเครื่องเล่นเพลงเป็นวิธีที่ฉลาดและประหยัดทรัพยากร ในขณะที่คุณสามารถทั้งฟังเพลง และยังสามารถประหยัดทรัพยากรบนมือถือใหม่ของคุณได้ ซึ่งจะช่วยลดการสิ้นเปลืองแบตเตอรี่หรือเนื้อที่จัดเก็บข้อมูลในเครื่องใหม่ ในขณะที่เปิดเพลงผ่านลำโพงบลูทูธ คุณยังสามารถหลีกเลี่ยงการถูกรบกวนด้วยเสียงแชทหรือการแจ้งเตือนต่างๆ ทำให้คุณฟังเพลงได้เพลิดเพลินมากยิ่งขึ้น

4. ใช้มือถือเก่าเป็น รีโมทโทรทัศน์

มือถือเก่าที่เราไม่ได้ใช้งานแล้วสามารถเปลี่ยนใช้ใหม่อย่างมีประสิทธิภาพ ด้วยการใช้เป็นรีโมทโทรทัศน์สำหรับ Android TV ยี่ห้อต่างๆ แอปพลิเคชันรีโมทบนมือถือไม่เพียงแต่สามารถควบคุมได้หลากหลายฟังก์ชัน ยังสามารถทำให้การดูทีวีกลายเป็นเรื่องง่ายดายมากขึ้นโดยไม่ต้องพึ่งรีโมทแบบดั้งเดิม โดยเฉพาะถ้าคุณเป็นคนที่มักจะทำรีโมทหาย หรือมีรีโมทอุปกรณ์ไฟฟ้าหลายตัวในบ้าน มือถือเก่าของคุณอาจกลายเป็นรีโมทมัลติฟังก์ชันที่รวบรวมทุกการควบคุมไว้ในเครื่องเดียว ทั้งประหยัดพื้นที่ และสะดวกสบายขึ้น!

5. ใช้ดูยูทูป ดูวิดีโอ ดูหนัง

การใช้มือถือเก่าในการดูวิดีโอ, ยูทูป, หรือหนังเป็นวิธีที่ชาญฉลาดในการประหยัดแบตเตอรี่ของเครื่องใหม่ของคุณ เมื่อมีการดูเนื้อหาวิดีโอบ่อยๆ แบตเตอรี่ของมือถือก็จะถูกใช้งานหนักและต้องชาร์จบ่อย การมีเครื่องสำรองสำหรับการดูเนื้อหาเหล่านี้ช่วยลดการใช้งานแบตเตอรี่ของเครื่องหลักและชะลอการเสื่อมของแบตเตอรี่ นอกจากนี้ยังช่วยเพิ่มอายุการใช้งานแบตเตอรี่ระยะยาว ทำให้คุณใช้เครื่องใหม่ได้ยาวนานขึ้น.

6. ใช้มือถือเก่าเป็น GPS

นำมือถือเก่ามาใช้เป็น GPS สำหรับการขับรถเป็นวิธีที่เป็นประโยชน์และช่วยลดการแทรกแซงจากการใช้งานมือถือเครื่องหลัก โดยการติดตั้งแอปพลิเคชันแผนที่และ GPS ในเครื่องเก่า คุณสามารถใช้มันเป็น GPS ขณะขับรถ ทำให้คุณสามารถปล่อยเครื่องใหม่ไว้ใช้งานอื่นๆ หรือรับ/โทรศัพท์โดยไม่ต้องยุ่งยากกับการเปิด-ปิดแผนที่ ทำให้การเดินทางเป็นไปอย่างราบรื่นและสะดวกสบายมากยิ่งขึ้น

7. เปลี่ยนมือถือเครื่องเก่า ให้กลายเป็นเมาส์ไร้สาย

ในกรณีที่คุณพบปัญหากับเมาส์ที่ใช้งานอยู่หรือต้องการเมาส์ไร้สายเพื่อความสะดวก คุณสามารถนำมือถือ Android ที่ไม่ได้ใช้งานแล้วมาใช้เป็นเมาส์ไร้สายได้! เพียงดาวน์โหลดแอปพลิเคชันชื่อว่า “Remote Mouse” แล้วเชื่อมต่อมือถือกับคอมพิวเตอร์ผ่าน Wi-Fi ที่อยู่ในเครือข่ายเดียวกัน ด้วยขั้นตอนง่าย ๆ นี้ คุณก็จะได้มือถือ Android เป็นเมาส์ไร้สายที่สามารถใช้งานได้ทันที

ร้านร้านซ่อมโทรศัพท์มือถือเชียงใหม่ ไอโฟน ไอแพดเชียงใหม่ Byช่างเอกCM Mobile

  • ทุกการซ่อมหรือเปลี่ยนอะไหล่จะแจ้งให้ ลูกค้าทราบว่าใช้อะไรราคาเท่าไร
  • ทีมงานมืออาชีพ มีประสบการณ์ในการซ่อมมือถือทุกอาการมาอย่างยาวนาน มีความเชี่ยวชาญในงานซ่อมโดยเฉพาะ
  • ไม่มีการย้อมแมวใช้อะไหล่เทียบ แล้วแจ้งเป็นอะไหล่แท้
  • แก้ไขตรงจุด ไม่มั่ว บอร์ดไม่ช้ำ ข้อมูลอยู่ครบ

สรุปแล้ว มือถือเก่าที่เราคิดว่าไม่มีประโยชน์อาจจะกลายเป็นสิ่งมีค่าเมื่อเราสามารถหาวิธีนำมาใช้ให้เกิดประโยชน์ได้ ไม่ว่าจะเป็นในเรื่องของการทำงาน, ความบันเทิง หรือแม้กระทั่งระบบความปลอดภัย ดังนั้น อย่ารีบทิ้งมือถือเก่าของคุณเพียงแค่เพราะมันเก่า!


รีวิวงานซ่อมจริง ที่ลูกค้าส่งซ่อมกับร้าน Tace care service

ร้านซ่อมโทรศัพท์มือถือเชียงใหม่ ไอโฟน ไอแพดเชียงใหม่ By ช่างเอก CM Mobile

ติดต่อ Take Care  Service ได้ที่
ชั้น3 ติดๆกับลิฟต์แก้วขึ้นลิฟต์แก้วมาอยู่ซ้ายมือ

เซ็นทรัลเชียงใหม่ แอร์พอร์ต (ห้องtemp362/1)
เลขที่2 252-252/1 ถนน.มหิดล ตำบล.หายยา
อำเภอ.เมืองเชียงใหม่ จังหวัด.เชียงใหม่ 50100
TEL. 090-526-6789  ช่างเอก
          095-849-4638  พัช

เปิดบริการทุกวัน
วันจันทร์ – วันศุกร์
เปิดบริการเวลา 11:00 น. – 21:00 น.

วันเสาร์ – วันอาทิตย์ – วันหยุดนักขัตฤกษ์
เปิดบริการเวลา 10:00 น. – 21:00 น.

ที่คนค้นหาเกี่ยวกับเนื้อหานี้ :

Continue Reading7 วิธีนำมือถือเก่ามาใช้ประโยชน์ มีอะไรบ้าง

คู่มือการแก้ปัญหาโทรศัพท์มือถือ Sony ทัชสกรีนไม่ทำงาน

มือถือ Sony จอค้างผิดปกติ

หากหน้าจอมือถือSonyเกิดอาการค้าง ไม่ตอบสนองการสัมผัส หรือหน้าจอดับ นั่นไม่ได้หมายความว่าโทรศัพท์ของคุณมีปัญหาเสมอไปเพราะอาการที่กล่าวมา อาจจะเกิดจากบางอย่างที่ใกล้ตัวคุณมากจนนึกไม่ถึง เช่น อาจมีแอปพลิเคชั่นที่ทำงานผิดปกติจนทำให้เครื่องค้าง

หน้าจอมือถือ SONY ค้าง ทัชไม่ได้แก้ไขอย่างไร

หน้าจอมือถือนั้นถือเป็นหนึ่งในส่วนที่มักจะเกิดปัญหาอยู่บ่อยครั้ง โดยเฉพาะมือถือที่ใช้มานานเป็นปีแล้ว ไม่ว่าจะเป็นปัญหาทัชไม่ติด หรือทัชบางส่วนของหน้าจอไม่ได้ ซึ่งอาจเป็นไปได้ทั้งหน้าจอเสีย หรืออาจเกิดจากปัญหาด้านซอฟต์แวร์ โดยในวันนี้เราจะมาแนะนำวิธีตรวจสอบและแก้ปัญหาสำหรับมือถือ SONY แบบเบื้องต้นกัน ถ้าหากสามารถแก้ด้วยตัวเองได้ดังนี้

1.ถ้าน้ำเข้าให้ทำให้แห้ง

ถ้าหากทำมือถือเปียกน้ำก็อาจจะเป็นไปได้ว่ามีน้ำเข้าไปในเครื่อง ก็อาจจะส่งผลให้ชิ้นส่วนภายในต่าง ๆ ทำงานขัดข้องและอาจส่งผลกับทัชสกรีนได้

2.ลอกฟิล์มกันรอยออก

อาจมีโอกาสที่ทำให้การทัชไม่ค่อยลื่นหรือมีสะดุดได้บ้าง ขึ้นอยู่กับประเภทและคุณภาพของฟิล์มที่ใช้ ซึ่งการลอกฟิล์มกันรอยออกก็อาจจะช่วยแก้ปัญหานี้ก็ได้

3.เช็คว่าหน้าจอเสียจริงๆ

ก่อนอื่นต้องเช็คให้แน่ใจเสียก่อนว่าหน้าจอเสียจริง ๆ หรือว่าเป็นปัญหาจากซอฟต์แวร์กันแน่

ด้วยการรีสตาร์ตเครื่อง

  • โดยกดปุ่ม Power ค้างไว้
  • จากนั้นให้แตะที่ตัวเลือก Power Off ค้างไว้เพื่อให้มือถือเข้าสู่ Safe Mode
  • ทดลองทัชสกรีนดูว่าใช้ได้หรือไม่
  • หากหน้าจอมีปัญหาทำให้ไม่สามารถแตะที่ตัวเลือก Power Off ได้
  • ใช้วิธีกดปุ่ม Power พร้อมกับปุ่มอื่น ๆ เช่น Volume (แล้วแต่รุ่น) ค้างไว้เพื่อรีสตาร์ตเครื่องแทน
  • หรือใช้แอปฯ Display Tester เพื่อทดสอบหน้าจอแทนก็ได้เช่นกัน

4.สุดท้ายแล้ว ส่งซ่อมเถอะ

ถ้าหากลองทุกวิธีแล้วยังไม่สามารถแก้ปัญหาได้ หรือยังทำให้ปุ่มใช้งานได้ดั่งใจไม่สำเร็จ หนทางสุดท้ายก็คือส่งซ่อมที่ช่างผู้ชำนาญแต่ละแบรนด์ เพื่อแก้ไขปัญหาให้ตรงจุดโดยเร่งด่วนต่อไป

ทำไมถึงต้องซ่อมกับร้านเรา

ปัจจุบันร้านซ่อมมือถือมีเป็นจำนวนมาก แต่จุดเด่นของร้านเราคือ การซ่อมโดยช่างผู้ชำนาญ และมืออาชีพ ซ่อมรวดเร็ว และไม่ส่งโทรศัพท์ลูกค้าไปซ่อมต่อที่ร้านอื่นๆ ทำให้มั่นใจได้ว่า ซ่อมโดยช่างที่ชำนาญและข้อมูลลูกค้าไม่รั่วไหลอีกด้วย นอกจากนี้ร้านเรายังมีประกันงานซ่อมในส่วนต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นหน้าจอ  แบตเตอร์รี่  แพตูดชาร์จ และส่วนอื่นๆ ทำให้ลูกค้ามั่นใจในงานซ่อมได้เลย อีกทั้งยังมีของแถมและส่วนลดในส่วนต่างๆอีกด้วย


รีวิวงานซ่อมจริง ที่ลูกค้าส่งซ่อมกับร้าน Tace care service

ร้านซ่อมโทรศัพท์มือถือเชียงใหม่ ไอโฟน ไอแพดเชียงใหม่ By ช่างเอก CM Mobile

ติดต่อ Take Care  Service ได้ที่
ชั้น3 ติดๆกับลิฟต์แก้วขึ้นลิฟต์แก้วมาอยู่ซ้ายมือ

เซ็นทรัลเชียงใหม่ แอร์พอร์ต (ห้องtemp362/1)
เลขที่2 252-252/1 ถนน.มหิดล ตำบล.หายยา
อำเภอ.เมืองเชียงใหม่ จังหวัด.เชียงใหม่ 50100
TEL. 090-526-6789  ช่างเอก
          095-849-4638  พัช

เปิดบริการทุกวัน
วันจันทร์ – วันศุกร์
เปิดบริการเวลา 11:00 น. – 21:00 น.

วันเสาร์ – วันอาทิตย์ – วันหยุดนักขัตฤกษ์
เปิดบริการเวลา 10:00 น. – 21:00 น.

ที่คนค้นหาเกี่ยวกับเนื้อหานี้ :

Continue Readingคู่มือการแก้ปัญหาโทรศัพท์มือถือ Sony ทัชสกรีนไม่ทำงาน

4 วิธีแก้ไข โทรศัพท์มือถือ Redmi เชื่อมต่อ Wi-Fi ไม่ได้

มือถือ Redmi เชื่อมต่อ Wi-Fi ไม่ได้

ในยุคที่เราอาจไม่สามารถจดจำได้ว่าโลกมีชีวิตโดยไม่ต้องใช้โทรศัพท์มือถือได้ยาก เราใช้โทรศัพท์เพื่อติดต่อ, สร้างการบันเทิง, ทำงาน, และหลายโรงงานและบริษัทใช้มือถือเป็นเครื่องมือหลักสำหรับการทำงาน เมื่อโทรศัพท์ Redmi เชื่อมต่อ Wi-Fi ไม่ได้ คุณอาจรู้สึกไม่สะดวกและรู้สึกหงุดหงิดได้เลยทีเดียว ปัญหานี้อาจเกิดขึ้นได้สำหรับคุณ ซึ่งอาจเกิดจากหลายสาเหตุ ซึ่งเป็นไปได้ว่าอาจเกิดจาก 2 สาเหตุคือ ความผิดปกติของมือถือ Android ของคุณ และปัญหาจาก Router

วิธีแก้ไขโทรศัพท์มือถือ Redmi เชื่อมต่อ Wi-Fi ไม่ได้

ก่อนที่คุณจะลองทำตามคำแนะนำด้านล่าง โปรดตรวจสอบว่าซอฟต์แวร์ของอุปกรณ์และแอพที่เกี่ยวข้องได้รับการอัพเดตเป็นเวอร์ชันล่าสุดแล้ว ในการอัพเดตซอฟต์แวร์ของอุปกรณ์มือถือของคุณ ให้ทำตามขั้นตอนเหล่านี้:

1. สังเกตมือถือ

เปิด Airplane หรือโหมดเครื่องบินหรือไม่ แนะนำให้ปิดโหมดเครื่องบิน แล้วเชื่อมต่อ Wi-Fi ซึ่งถ้าหากเราเปิดโหมดนี้ไว้ จะทำให้เชื่อมต่อเครือข่ายไม่ได้

2. ทำการปิดและเปิด Wi-Fi บนมือถือ

เริ่มเชื่อมต่อ Wi-Fi กับ Router คุณใหม่อีกครั้ง

  • โดยเข้าที่ Setting
  • เลือก Internet Network
  • เลือก wi-fi ให้เป็น ON
  • เชื่อมต่อเข้ากับชื่อ Wi-Fi ของคุณใหม่

3. เปิด – ปิด เครื่องใหม่

ให้ลอง Restart มือถือ หรือไม่ก็ทำการปิดมือถือแล้วเปิดมือถือใหม่ แล้วทำการเชื่อมต่อ Wi-Fi ตามข้อที่ 2 อีกครั้ง

4. ทำการรีเซ็ตการตั้งค่าเครือข่าย

  • โดยเข้าที่ Settings
  • ระบบ
  • รีเซ็ต
  • Reset network settings
  • ตอบ reset setting

ทั้งนี้ทุกสิ่งทุกอย่างที่คุณเคยเชื่อมต่อ Wi-Fi ทั้งหมดจะถูกล้างออกทั้งหมด ให้คุณทำการเชื่อมต่อ Wi-Fi ปกติใหม่ พร้อมกับใส่รหัสให้ถูกต้องด้วย ถึงจะสามารถเชื่อมต่อ Wi-Fi ได้ หากแก้ไขทั้งหมดแล้วโทรศัพท์  Redmi ของคุณยัง เชื่อมต่อ wi-fi ไม่ได้ อาจเป็นไปได้ที่โทรศัพท์คุณมีปัญหาซึ่งต้องนำมือถือไปพบช่างผู้ชำนาญเพื่อแก้ไขปัญหาต่อไป

ทำไมถึงต้องซ่อมกับร้านเรา

ปัจจุบันร้านซ่อมมือถือมีเป็นจำนวนมาก แต่จุดเด่นของร้านเราคือ การซ่อมโดยช่างผู้ชำนาญ และมืออาชีพ ซ่อมรวดเร็ว และไม่ส่งโทรศัพท์ลูกค้าไปซ่อมต่อที่ร้านอื่นๆ ทำให้มั่นใจได้ว่า ซ่อมโดยช่างที่ชำนาญและข้อมูลลูกค้าไม่รั่วไหลอีกด้วย นอกจากนี้ร้านเรายังมีประกันงานซ่อมในส่วนต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นหน้าจอ   แบตเตอร์รี่  แพตูดชาร์จ และส่วนอื่นๆ ทำให้ลูกค้ามั่นใจในงานซ่อมได้เลย อีกทั้งยังมีของแถมและส่วนลดในส่วนต่างๆอีกด้วย


รีวิวงานซ่อมจริง ที่ลูกค้าส่งซ่อมกับร้าน Tace care service

ร้านซ่อมโทรศัพท์มือถือเชียงใหม่ ไอโฟน ไอแพดเชียงใหม่ By ช่างเอก CM Mobile

ติดต่อ Take Care  Service ได้ที่
ชั้น3 ติดๆกับลิฟต์แก้วขึ้นลิฟต์แก้วมาอยู่ซ้ายมือ

เซ็นทรัลเชียงใหม่ แอร์พอร์ต (ห้องtemp362/1)
เลขที่2 252-252/1 ถนน.มหิดล ตำบล.หายยา
อำเภอ.เมืองเชียงใหม่ จังหวัด.เชียงใหม่ 50100
TEL. 090-526-6789  ช่างเอก
          095-849-4638  พัช

เปิดบริการทุกวัน
วันจันทร์ – วันศุกร์
เปิดบริการเวลา 11:00 น. – 21:00 น.

วันเสาร์ – วันอาทิตย์ – วันหยุดนักขัตฤกษ์
เปิดบริการเวลา 10:00 น. – 21:00 น.

ที่คนค้นหาเกี่ยวกับเนื้อหานี้ :

Continue Reading4 วิธีแก้ไข โทรศัพท์มือถือ Redmi เชื่อมต่อ Wi-Fi ไม่ได้