10 อาการเสียของโทรศัพท์มือถือ ยอดนิยม อัพเดท 2023-2024

นับได้ว่าเป็นยุคสมัยที่โทรศัพท์มือถือมีอิทธิพลต่อชีวิตของผู้คนส่วนใหญ่เลยก็ว่าได้ เนื่องจากโทรศัพท์มือถือมีผู้ผลิตที่หลากหลาย ผลิตให้มีคุณภาพตามราคา แต่ถึงแม้จะซื้อโทรศัพท์สมาร์ทโฟนเครื่องแพงแค่ไหนก็ตาม ก็ยังต้องพบเจอกับปัญหาอยู่ดี ปัญหาส่วนใหญ่เกิดจากพฤติกรรมการใช้งานของผู้ใช้งานเอง แต่ก็ขึ้นอยู่กับอายุการใช้งานของมือถือด้วย แต่จะทำอย่างไรเมื่ออยากให้มือถือเครื่องโปรดอยู่กับเราไปนานๆ เราจึงมี อาการเสียยอดฮิตโทรศัพท์มือถือ พร้อมสาเหตุที่คุณควรหลีกเลี่ยงดังนี้

1. ปัญหาโทรศัพท์มือถือ แบตเตอรี่เสื่อม

พบได้หลายอาการ และสาเหตุแตกต่างกันออกไป อาจเกิดได้จากปัญหาด้านซอฟต์แวร์ และฮาร์ดแวร์ดังนี้

1.แบตเตอรี่ชาร์จไม่เข้า สาเหตุเกิดจาก อุปกรณ์ชาร์จไฟที่ไม่ได้มาตรฐาน ชำรุดเสียหาย แบตเตอรี่เสื่อมสภาพตามอายุการใช้งาน หรือ พอร์ตชาร์จมี ฝุ่น สิ่งสกปรกอุดตันอยู่

2.แบตเตอรี่หมดไว เกิดจากการเปิดใช้งานหลายแอปพร้อมกันทำให้เครื่องร้อนเกินไป และการเสื่อมสภาพของแบตเตอรี่

3.แบตเสื่อม เกิดจากอายุการใช้งานของแบตลดลง การใช้งานที่หนักจนเกินไป และชาร์จแบตจากอุปกรณ์ชาร์จไฟที่ไม่ได้มาตรฐาน

4.แบตเตอรี่บวม เกิดจากการเสื่อมสภาพของแบตเตอรี่ สังเกตจากอาการแบตเตอรี่บวมจนดันฝาหลัง หรือหน้าจอขึ้นมานั้นเอง

2.โทรศัพท์มือถือเปิดไม่ติด

ปัญหาเปิดไม่ติดของโทรศัพท์มือถือมีสาเหตุหลักๆ ดังนี้:

  • แบตเตอรี่หมด หรือเสียหาย
  • ฮาร์ดแวร์เสียหาย เช่น การตกหรือวงจรภายในขัดข้อง
  • ปัญหาซอฟต์แวร์ อาทิ ระบบปฏิบัติการผิดพลาด หรือการอัปเดตไม่สำเร็จ
  • ความร้อนเกินจากการใช้งานต่อเนื่อง
  • เมมโมรีเต็ม ทำให้โทรศัพท์ทำงานไม่ปกติ

3. โทรศัพท์มือถือ ชาร์จแบตไม่เข้า

โทรศัพท์มือถือ ชาร์จแบตไม่เข้า เป็นปัญหาที่พบบ่อยในผู้ใช้งานโทรศัพท์มือถือ ซึ่งมีสาเหตุหลักๆมาจาก อุปกรณ์ชาร์จแบตที่ชำรุดเสียหาย หรือไม่ได้มาตรฐาน (ของปลอม) เกิดจากการเสื่อมสภาพของแบตเตอรี่ รวมไปถึงมือถืออาจเกิดความชื้น ทำให้เกิดฝุ่นเกาะสะสมบริเวณพอร์ตชาร์จ หากสะสมมากๆอาจส่งผลกระทบต่อพอร์ตชาร์จจนได้รับความเสียหายได้

4. มือถือเครื่องร้อนแบบไร้สาเหตุ

ถ้ามีอาการเครื่องร้อนขณะใช้งานหนัก ๆ เช่น เล่นเกม หรือดูวิดีโอความละเอียดสูง หรือขณะชาร์จแบตเตอรี่ ซึ่งถ้าไม่ร้อนมากเกินไปก็อาจยังไม่ถือว่าผิดปกติ แต่ถ้าเครื่องร้อนมากกว่าปกติทั้ง ๆ ที่ไม่เคยเป็นมาก่อน หรือร้อนแม้ในขณะที่ไม่ได้มีการใช้งานเครื่อง นั่นแปลว่าเครื่องอาจมีปัญหาเข้าแล้ว และการใช้ต่อไปก็อาจเกิดอันตรายจนถึงขั้นเครื่องระเบิดก็เป็นได้ ควรส่งซ่อมโดยด่วน หรือไม่ก็เปลี่ยนเครื่องใหม่

5. แบตเตอรี่โทรศัพท์มือถือบวม

ถ้าพบเห็นว่าแบตเตอรี่บวมจนดันฝาหลังมือถือบวมหรืออ้าออกมาแล้ว ให้หยุดใช้งานแล้วรีบเปลี่ยนแบตเตอรี่ทันที เพราะว่าอาการดังกล่าวไมใช่เพียงแต่แบตเตอรี่เสื่อม แต่อาจก่อให้เกิดอันตรายทั้งกับตัวเครื่องและตัวผู้ใช้เอง ซึ่งถ้าหากยังไม่คิดจะซื้อมือถือใหม่ก็ควรรับเปลี่ยนแบตเตอรี่ทันที

6. โทรศัพท์มือถือ ลำโพงไม่ดัง

โทรศัพท์มือถือ ลำโพงไม่ดัง เกิดจากมีฝุ่นหรือ สิ่งสกปรกเข้าไปอุดตัน หรือการเผลอเข้าไปตั้งค่าปิดเสียงแจ้งเตือน ดังนั้นลองตรวจสอบการตั้งค่าการแจ้งเตือน และทำความสะอาดบริเวณลำโพงให้สะอาด แล้วลองใช้งานลำโพงใหม่อีกครั้ง

7. โทรศัพท์หน้าจอแตก ปลี่ยนจอ Ipad Iphone

หนึ่งในปัญหายอดฮิตของคนใช้โทรศัพท์มือถือ คือ หน้าจอมือถือแตก โดยปกติแล้วการแตกของหน้าจอไม่ว่าจะเป็น จอ Ipad แตก จอ IPHONE แตก สามารถแบ่งได้เป็น 3 รูปแบบ คือ

1. กระจกจอโทรศัพท์แตก

เป็นรูปแบบที่เกิดขึ้นได้บ่อย มักเกิดจากการหล่นจากกระเป๋ากางเกงหรือกระเป๋าถือ โดยมือถือจะแสดงผลภาพได้ปกติ ไม่มีเส้นขีดที่หน้าจอ สีไม่เพี้ยน ทัชสกรีนยังใช้งานได้ดี สามารถซ่อมมือถืออาการแบบนี้ด้วยการเปลี่ยนกระจกอันใหม่เข้าไปแทน

2. จอแสดงผลมือถือแตก (จอชั้นใน)

เป็นรูปแบบที่เกิดขึ้นได้บ่อยเช่นกัน แต่มักเกิดจากการนั่งทับหรือของหนักๆ หล่นใส่หน้าจอ โดยจอที่แตกในลักษณะนี้ จะทำให้การแสดงผลผิดเพี้ยน ทัชสกรีนบางจุดไม่ได้ จอมืด มีจุดดำ มีเส้นขีดขึ้นทั่วจอ หรือจอกระพริบตลอดเวลา

3. แตกทั้งกระจกและจอแสดงผล

รูปแบบนี้ต้องส่งซ่อมมือถืออย่างเดียว เพราะใช้งานไม่ได้ อาการที่สังเกตได้ เช่น ภาพไม่ปกติ มีจุดดำ มีเส้นขีดขึ้นทั่วหน้าจอ เป็นต้น

8. ทัชสกรีนไม่ได้ ทัชไม่ติด ไม่ลื่น

อาการกดปุ่มไม่ได้ ทัชสกรีนไม่ได้ เกิดขึ้นได้จากหลายสาเหตุ เช่น

  • น้ำเข้าเครื่อง ทำให้การทำงานของระบบต่างๆ ภายในมือถือขัดข้อง
  • สมาร์ทโฟน ตกกระแทกบ่อย ทำให้มือถือเริ่มรวน
  • การมีสิ่งแปลกปลอม ฝุ่น หรือสิ่งสกปรก สะสมอยู่บนหน้าจอมากเกินไป
  • มีแอปพลิเคชั่นทำงานอยู่เป็นจำนวนมาก

9. มือถือตกน้ำ เปิดไม่ติด

แม้สมาร์ทโฟนรุ่นใหม่ๆ จะมีคุณสมบัติที่กันน้ำได้ แต่ก็มีมือถือจำนวนหนึ่งที่กันน้ำไม่ได้เช่นกัน ซึ่งเมื่อรู้ว่าสมาร์ทโฟนของเราตกน้ำ สิ่งที่ควรรีบทำคือ

  • หยิบมือถือขึ้นมาจากน้ำให้เร็วที่สุด
  • ปิดเครื่องทันที เพื่อลดความเสี่ยงงจากไฟฟ้าลัดวงจร
  • ถอดซิมการ์ด และ SD Card ออกจากตัวเครื่อง
  • เช็ดมือถือให้แห้งที่สุด หรือนำเครื่องใส่ถุงสุญญากาศ แล้วดูดอากาศออกให้หมด
  • และที่สำคัญคือ รีบส่งศูนย์ซ่อมมือถือ เพื่อป้องกันตัวเครื่องไม่ให้ชำรุดและเสียหายต่อไป

10. โทรศัพท์มือถือ กล้องพัง

สามารถแยกได้หลายอาการ ดังนี้

1.กล้องไม่โฟกัส เกิดจากมีฝุ่นติดอยู่บริเวณเลนส์กล้อง หรือถ่ายภาพวัตถุหรือบุคคลที่ใกล้จนเกินไปควรเว้นระยะห่างให้เหมาะสม

2.ภาพถ่ายเบลอ ภาพไม่ชัด อาจมีคราบสกปรกติดอยู่บริเวณเลนส์กล้อง หรือ ถ่ายภาพในที่ที่มีแสงสว่างไม่เพียงพอ

3.เข้าใช้งานกล้องมือถือไม่ได้ อาจเกิดจากหน่วยความจำเครื่องใกล้เต็ม ลองทำการเคลียร์แคช ลบข้อมูลที่ไม่จำเป็น หรือลบแอปพลิเคชันที่ไม่จำเป็น เพื่อเพิ่มหน่วยความจำเครื่อง

ทั้งหมดนี้คือปัญหายอดฮิตที่พบได้บ่อย หากใช้งานมือถืออย่างไม่ระมัดระวังอาจสูญเสียเงินทองไปกับการซ่อมมือถือก็เป็นได้ หวังเป็นอย่างยิ่งว่าบทความนี้จะเกิดประโยชน์ต่อผู้ใช้งานไม่มากก็น้อย หากเกิดปัญหาด้านซอฟต์แวร์ผู้ใช้งานสามารถแก้ไขเองได้ แต่หากเกิดปัญหาด้านฮาร์ดแวร์ในตัวเครื่อง ห้ามทำการแกะเครื่องเพื่อซ่อมเอง เพราะตัวเครื่องอาจเกิดความเสียหายจากการแกะที่ไม่ชำนาญ และอาจเสียหายมากกว่าเดิมได้ จึงควรส่งต่อให้ร้านซ่อมที่มีความชำนาญ ได้วิเคราะห์อาการและแก้ไข จะดีกว่า

ร้านร้านซ่อมโทรศัพท์มือถือเชียงใหม่ ไอโฟน ไอแพดเชียงใหม่ Byช่างเอกCM Mobile

  • ทุกการซ่อมหรือเปลี่ยนอะไหล่จะแจ้งให้ ลูกค้าทราบว่าใช้อะไรราคาเท่าไร
  • ไม่มีการย้อมแมวใช้อะไหล่เทียบ แล้วแจ้งเป็นอะไหล่แท้
  • ทีมงานมืออาชีพ มีประสบการณ์ในการซ่อมมือถือทุกอาการมาอย่างยาวนาน มีความเชี่ยวชาญในงานซ่อมโดยเฉพาะ
  • ตรวจเช็คและประเมินราคาให้ก่อนทุกครั้ง

รีวิวงานซ่อมจริง ที่ลูกค้าส่งซ่อมกับร้าน Tace care service

ร้านซ่อมโทรศัพท์มือถือเชียงใหม่ ไอโฟน ไอแพดเชียงใหม่ By ช่างเอก CM Mobile

ติดต่อ Take Care  Service ได้ที่
ชั้น3 ติดๆกับลิฟต์แก้วขึ้นลิฟต์แก้วมาอยู่ซ้ายมือ

เซ็นทรัลเชียงใหม่ แอร์พอร์ต (ห้องtemp362/1)
เลขที่2 252-252/1 ถนน.มหิดล ตำบล.หายยา
อำเภอ.เมืองเชียงใหม่ จังหวัด.เชียงใหม่ 50100
TEL. 090-526-6789  ช่างเอก
          095-849-4638  พัช

เปิดบริการทุกวัน
วันจันทร์ – วันศุกร์
เปิดบริการเวลา 11:00 น. – 21:00 น.

วันเสาร์ – วันอาทิตย์ – วันหยุดนักขัตฤกษ์
เปิดบริการเวลา 10:00 น. – 21:00 น.

ที่คนค้นหาเกี่ยวกับเนื้อหานี้ :

Continue Reading10 อาการเสียของโทรศัพท์มือถือ ยอดนิยม อัพเดท 2023-2024

6  วิธีเช็ค อาการแบตมือถือเสื่อม มีอะไรบ้าง เช็คเลย!!

แบตเตอรี่เป็นส่วนสำคัญของมือถือทุกเครื่อง แต่สิ่งที่หลายคนไม่รู้คือ แบตเตอรี่มีอายุการใช้งาน และอาจจะเสื่อมสภาพตามเวลาและการใช้งาน ดังนั้นการรู้จักอาการของแบตเตอรี่มือถือเสื่อมสภาพจึงสำคัญเพื่อให้เราเตรียมตัวและดูแลมือถือของเราให้ยืนยาว วิธีต่อไปนี้จะช่วยให้คุณสามารถเช็คและระบุอาการของแบตเตอรี่ที่เริ่มเสื่อมสภาพ

6 วิธีเช็ค อาการแบตมือถือเสื่อม มีอะไรบ้าง

บทความนี้จะพาไปดูวิธีสังเกตว่า แบตเตอรี่โทรศัพท์มือถือเริ่มจะเสื่อมแล้วหรือยัง? มาดูกันว่า อาการสำคัญที่แสดงว่า ถึงเวลาที่จะต้องเปลี่ยนแบตเตอรี่ใหม่ มีอะไรบ้าง

1. แบตเตอรี่มือถือมักร้อนมากขึ้นระหว่างการชาร์จและการใช้งาน

เมื่อแบตเตอรี่ของอุปกรณ์เริ่มมีอาการร้อนในระหว่างการชาร์จหรือการใช้งาน, นี่อาจเป็นสัญญาณว่าแบตเตอรี่นั้นต้องเผชิญกับปัญหาบางประการ การที่แบตเตอรี่มือถือร้อนมากเกินควรไม่เพียงแต่จะทำให้พลังงานหมดเร็วขึ้น แต่ยังอาจทำให้อายุการใช้งานของแบตเตอรี่ลดลง เมื่อแบตเตอรี่มีความร้อนเกินกว่าที่ควร บางฟีเจอร์ของอุปกรณ์อาจถูกปิดหรือไม่สามารถเริ่มต้นใหม่ได้ชั่วคราว ดังนั้นควรระวังแบตเตอรี่ที่ได้รับการกระแทกหรือตกลงมา เพราะมันอาจนำไปสู่การลัดวงจรภายใน ทำให้กระแสไฟที่ไหลผ่านแบตเตอรี่สูงขึ้น สิ่งนี้ไม่เพียงแต่จะทำให้แบตเตอรี่ร้อน แต่ยังมีโอกาสที่จะระเบิดได้ด้วย

2. หลังถอดสายชาร์จแล้ว แบตมือถือลดลงอย่างรวดเร็ว

ในบางครั้ง เมื่อคุณชาร์จแบตเตอรี่เต็ม 100% และเมื่อถอดสายชาร์จออก พลังงานอาจจะลดลงไปทันทีจนเหลือประมาณ 90% หรือน้อยกว่า สาเหตุหลักเกิดจากการเสื่อมสภาพของแบตเตอรี่ที่ทำให้มีความจุการเก็บพลังงานลดลง หากพบเหตุการณ์เช่นนี้ ควรพิจารณาหาแบตเตอรี่ใหม่เพื่อการใช้งานที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น

3. แบตเตอรี่โทรศัพท์บวม

เมื่อคุณพบรอยแตก การซึมของของเหลว การบวม หรือการปล่อยก๊าซจากแบตเตอรี่ นั่นแสดงว่าแบตเตอรี่อาจมีปัญหาหรือกำลังเสื่อมสภาพ บางทีเหตุผลอาจเกิดจากความเสียหายที่เกิดขึ้นกับแบตเตอรี่ ซึ่งอาจนำไปสู่สถานการณ์ที่อันตราย เช่น การลัดวงจร การเกิดกระแสเกิน หรือความร้อนสูงภายในแบตเตอรี่ เมื่อพบว่าแบตเตอรี่มือถือบวม ควรหยุดการใช้งานและเปลี่ยนทันที

4. ใช้แอปพลิเคชั่นช่วยเช็ค

โทรศัพท์มือถือในยุคปัจจุบันมีการพัฒนาแอปพลิเคชั่นที่หลากหลายและมีประโยชน์ในการใช้งานประจำวัน ตั้งแต่แอปที่เปลี่ยนภาพปกติให้กลายเป็นภาพศิลปะ ถึงแอปที่ช่วยคุณวางแผนการท่องเที่ยว และอีกหนึ่งที่ห้ามพลาด ก็คือแอปสำหรับการตรวจสอบคุณภาพและสภาพของแบตเตอรี่โทรศัพท์ โดยสามารถแนะนำได้ดังนี้

  • สำหรับผู้ใช้ iOS

คุณสามารถตรวจสอบสภาพแบตเตอรี่มือถือของคุณได้ทันทีผ่านฟีเจอร์ “Battery Health” หรือ “สุขภาพแบตเตอรี่” และจากนั้นควรสนใจที่ “Maximum Capacity” หรือ “ความจุสูงสุด” ของแบตเตอรี่ เพื่อรู้ว่าแบตเตอรี่ยังมีสภาพดีหรือได้เริ่มต้นการเสื่อมสภาพแล้ว

  • สำหรับผู้ใช้ Andriod

ขอแนะนำ “AccuBattery” ที่จะช่วยให้คุณตรวจสอบสภาพแบตเตอรี่โทรศัพท์ของคุณ โดยเฉพาะในส่วนของ “health” ภายในแอปพลิเคชั่น

5. โทรศัพท์มือถือเครื่องดับแบบไร้สาเหตุ

หากคุณพบว่าโทรศัพท์ดับอย่างไม่น่าคาดคิดขณะกำลังใช้งาน โดยไม่มีสัญญาณเตือนใดๆ ปรากฏขึ้น เช่น เครื่องติดขัดหรือแอปพลิเคชันมีปัญหา หรือในเวลาที่คุณไม่ได้ใช้โทรศัพท์ แต่เมื่อคุณหยิบมาเพื่อใช้งานแล้วพบว่ามันดับไปเลย อาการเหล่านี้อาจเป็นสัญญาณแสดงว่าแบตเตอรี่ของคุณเริ่มจะเสื่อมสภาพแล้วนั่นเอง

6. แบตเตอรี่โทรศัพท์มือถือใช้มาหลายปีแล้ว

แบตเตอรี่โทรศัพท์มือถือมักมีอายุการใช้งานระหว่าง 2-4 ปี หากคุณได้ใช้งานมันมากกว่า 2 ปีแล้วและสังเกตเห็นอาการที่เปลี่ยนไปตามรายการที่กล่าวมา 5 ข้อในข้อความก่อนหน้านี้ คุณควรระวังและพิจารณาว่าแบตเตอรี่อาจมีความเสื่อมสภาพกำลังเกิดขึ้น ยิ่งเวลาผ่านไป แบตเตอรี่จะมีโอกาสสภาวะเสื่อมมากขึ้นตามเวลาการใช้งาน

ร้านซ่อมโทรศัพท์มือถือเชียงใหม่ ไอโฟน ไอแพดเชียงใหม่ Byช่างเอกCM Mobile

  • ทุกการซ่อมหรือเปลี่ยนอะไหล่จะแจ้งให้ ลูกค้าทราบว่าใช้อะไรราคาเท่าไร
  • ไม่มีการย้อมแมวใช้อะไหล่เทียบ แล้วแจ้งเป็นอะไหล่แท้
  • รีวิวเพียบจากทั้งลูกค้าเก่าและใหม่
  • ทีมงานมืออาชีพ มีประสบการณ์ในการซ่อมมือถือทุกอาการมาอย่างยาวนาน มีความเชี่ยวชาญในงานซ่อมโดยเฉพาะ
  • มีความเป็นมืออาชีพ  แก้ปัญหาซ่อมได้ตรงจุด

ปัญหาเรื่องแบตเตอรี่โทรศัพท์มือถือเสื่อมนับเป็นปัญหาที่ไม่ควรมองข้าม แบตเตอรี่ในสภาพที่ไม่สมบูรณ์ อาจนำไปสู่อันตรายและปัญหาในเครื่องหลายอย่าง และหวังว่าบทความนี้จะช่วยให้ท่านตรวจสอบสภาพแบตเตอรี่ของอุปกรณ์ต่างๆ เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดอันตรายจากการใช้งานแบตเตอรี่เสื่อมในอนาคต


รีวิวงานซ่อมจริง ที่ลูกค้าส่งซ่อมกับร้าน Tace care service

ร้านซ่อมโทรศัพท์มือถือเชียงใหม่ ไอโฟน ไอแพดเชียงใหม่ By ช่างเอก CM Mobile

ติดต่อ Take Care  Service ได้ที่
ชั้น3 ติดๆกับลิฟต์แก้วขึ้นลิฟต์แก้วมาอยู่ซ้ายมือ

เซ็นทรัลเชียงใหม่ แอร์พอร์ต (ห้องtemp362/1)
เลขที่2 252-252/1 ถนน.มหิดล ตำบล.หายยา
อำเภอ.เมืองเชียงใหม่ จังหวัด.เชียงใหม่ 50100
TEL. 090-526-6789  ช่างเอก
          095-849-4638  พัช

เปิดบริการทุกวัน
วันจันทร์ – วันศุกร์
เปิดบริการเวลา 11:00 น. – 21:00 น.

วันเสาร์ – วันอาทิตย์ – วันหยุดนักขัตฤกษ์
เปิดบริการเวลา 10:00 น. – 21:00 น.

ที่คนค้นหาเกี่ยวกับเนื้อหานี้ :

Continue Reading6  วิธีเช็ค อาการแบตมือถือเสื่อม มีอะไรบ้าง เช็คเลย!!

สิ่งที่ควรรู้เมื่อโทรศัพท์ Xiaomi หน้าจอแตก

โทรศัพท์ Xiaomi หน้าจอแตกทำอย่างไรดี

โทรศัพท์มือถือ Xiaomi มักเป็นทางเลือกยอดนิยมสำหรับผู้ใช้ทั่วโลก เป็นได้ทั้งความสมรรถนะและความคุ้มค่าของราคา แต่หลายๆ คนคงเคยเจอปัญหาเมื่อโทรศัพท์ Xiaomi เครื่องโปรดของเราเกิดอุบัติเหตุที่คาดไม่ถึง จนทำให้หน้าจอร้าวจนมองหน้าจอไม่เห็น หรือถ้าโชคร้ายก็อาจจะใช้งานหน้าจอไม่ได้อีกเลย

เมื่อโทรศัพท์ Xiaomi หน้าจอแตก

สิ่งที่ต้องทำอย่างแรกคือสำรวจความเสียหายส่วนอื่น ๆ  จากนั้นให้พิจารณาว่าจอโทรศัพท์แตกแบบไหน โดยเราสามารถจำแนกกรณีโทรศัพท์หน้าจอแตกได้ 3  แบบ ดังนี้

1. ฟิล์มกระจกแตก

ฟิล์มป้องกันรอยที่หน้าจอ หรือ ฟิล์มกระจกนอกจากจะกันรอยได้แล้ว

หากตกไม่แรง ฟิล์มกระจกยังสามารถช่วยป้องกันโทรศัพท์หน้าจอแตกอีกด้วย

2. กระจกหน้าจอมือถือแตก

โทรศัพท์ทุกเครื่องจะมีชั้นกระจกอยู่หนึ่งชั้นครอบอยู่ที่หน้าจอ หากกระจกหน้าจอโทรศัพท์ของเราแตก เราจะยังสัมผัสหน้าจอได้อยู่ และหน้าจอจะไม่มีเส้นขึ้น สีจะยังไม่เพี้ยน มีแค่รอยแตกเท่านั้น

3. จอมือถือด้านในแตก

บางครั้งโทรศัพท์ตกแรงๆ หยิบมาดูไม่มีรอยแตกที่หน้าจอ เราก็โล่งใจ พอกดเปิดหน้าจอเท่านั้น  หน้าจอมีจุดดำๆ มีแถบเส้นขึ้น สัมผัสรวนหรือสัมผัสไม่ได้ แบบนี้มั่นใจได้เลยว่า โทรศัพท์หน้าจอแตกด้านใน แน่นอน

หากเช็คตาม 3 ข้อข้างต้นแล้ว มือถือของคุณจอไม่แตกหรือแตกแค่ฟิล์มก็ยินดีด้วยนะคะ หากมือถือของท่านไหนแตกตามข้อ2และ3แล้ว ให้รีบหาช่างที่ชำนาญ หรือช่างใกล้บ้านเพื่อซ่อมและเปลี่ยนหน้าจอโดยเร็ว ไม่อย่างนั้นจะเสียหายหนักไปกว่าเดิม

ทำไมถึงต้องซ่อมกับร้านเรา

ปัจจุบันร้านซ่อมมือถือมีเป็นจำนวนมาก แต่จุดเด่นของร้านเราคือ การซ่อมโดยช่างผู้ชำนาญ และ มืออาชีพ ซ่อมรวดเร็ว และไม่ส่งโทรศัพท์ลูกค้าไปซ่อมต่อที่ร้านอื่นๆ ทำให้มั่นใจได้ว่า ซ่อมโดยช่างที่ชำนาญและข้อมูลลูกค้าไม่รั่วไหลอีกด้วย นอกจากนี้ร้านเรายังมี ประกันงานซ่อมในส่วนต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น หน้าจอ   แบตเตอร์รี่  แพชาร์จ และส่วนอื่นๆ ทำให้ลูกค้ามั่นใจในงานซ่อมได้เลย อีกทั้งยังมีของแถมและส่วนลดในส่วนต่างๆอีกด้วย


รีวิวงานซ่อมจริง ที่ลูกค้าส่งซ่อมกับร้าน Tace care service

ร้านซ่อมโทรศัพท์มือถือเชียงใหม่ ไอโฟน ไอแพดเชียงใหม่ By ช่างเอก CM Mobile

ติดต่อ Take Care  Service ได้ที่
ชั้น3 ติดๆกับลิฟต์แก้วขึ้นลิฟต์แก้วมาอยู่ซ้ายมือ

เซ็นทรัลเชียงใหม่ แอร์พอร์ต (ห้องtemp362/1)
เลขที่2 252-252/1 ถนน.มหิดล ตำบล.หายยา
อำเภอ.เมืองเชียงใหม่ จังหวัด.เชียงใหม่ 50100
TEL. 090-526-6789  ช่างเอก
          095-849-4638  พัช

เปิดบริการทุกวัน
วันจันทร์ – วันศุกร์
เปิดบริการเวลา 11:00 น. – 21:00 น.

วันเสาร์ – วันอาทิตย์ – วันหยุดนักขัตฤกษ์
เปิดบริการเวลา 10:00 น. – 21:00 น.

ที่คนค้นหาเกี่ยวกับเนื้อหานี้ :

Continue Readingสิ่งที่ควรรู้เมื่อโทรศัพท์ Xiaomi หน้าจอแตก

โทรศัพท์พังเปิดไม่ติด ทำอย่างไรดี ซ่อมได้ไหม

มือถือเปิดไม่ติด มือถือค้าง มือถือดับ เป็นปัญหาปกติที่ผู้ใช้มือถือและแท็บเล็ตต่างก็คุ้นเคยกันดี เพราะอย่างน้อยสำหรับคนที่ใช้งานมานานก็คงต้องเจอกันบ้างสักครั้งหรือสองครั้ง ซึ่งส่วนใหญ่แล้วจะเป็นปัญหาที่ตัวซอร์ฟแวร์มากกว่าจะเป็นปัญหาที่ตัวเครื่อง

โทรศัพท์มือถือ เปิดไม่ติด ควรทำอย่างไรดี

วันนี้ ร้านซ่อมโทรศัพท์มือถือเชียงใหม่ ไอโฟน ไอแพดเชียงใหม่ Byช่างเอกCM Mobile เราจะมาแนะนำวิธีแก้ปัญหาเบื้องต้นหากเพื่อน ๆ เจออาการมือถือเปิดไม่ติด, มือถือค้าง หรือมือถือดับกัน ให้ลองแก้กันเองดูก่อน หากไม่ไหวจริง ๆ ค่อยไปส่งซ่อม ซึ่งจะมีวิธีไหนบ้างนั้นไปดูกันได้เลย

1. ตรวจสอบแบตเตอรี่มือถือ

  • ความเสื่อมของแบตเตอรี่ การใช้มือถือเป็นเวลานานอาจทำให้แบตเตอรี่เสื่อม ซึ่งอาจเป็นเหตุผลของการเปิดไม่ติด หรือชาร์จไม่เข้า
  • วิธีเช็คแบตเตอรี่
  • iPhone: เข้า Settings -> Battery -> Battery Health ซึ่งจะแสดงประสิทธิภาพและสถานะของแบตเตอรี่
  • Android: กด *#*#4636#*#* แล้วเลือกข้อมูลแบตเตอรี่ (หมายเหตุ: อาจไม่สามารถใช้กับทุกรุ่น)
  • โหลดแอปพลิเคชัน เช่น Du Battery Saver เพื่อตรวจสอบคุณภาพแบตเตอรี่

2. ตรวจสอบแบตเตอรี่และอุปกรณ์ชาร์จมือถือ

  • ลองเช็คว่าแบตเตอรี่หมดหรือไม่ และตรวจสอบสายชาร์จและอะแดปเตอร์.
  • ตรวจสอบช่องชาร์จแบตเตอรี่ว่ามีฝุ่นหรือสิ่งเกาะติด และช็อตชาร์จว่าหลวมหรือไม่

3. การชาร์จมือถือ

ลองเสียบสายชาร์จและรอ 1 นาที, ถ้าเห็นไอคอนแบตเตอรี่ ตรวจสอบพลังงานและสายชาร์จ ถ้าไม่เห็น อาจมีปัญหาเกิดขึ้น.

4. รีสตาร์ทมือถือ

ลองรีสตาร์ท หรือปิดแล้วเปิดมือถือใหม่

 

5. การล้างเครื่องใหม่ (Factory Reset)

  • ตั้งค่า Factory Reset อยู่ใน settings แต่ละเครื่องอาจมีตำแหน่งที่แตกต่างกัน
  • การล้างเครื่องจะทำให้ข้อมูลและแอปในเครื่องหายไป แต่จะช่วยแก้ปัญหาซอฟต์แวร์ได้

6. ส่งศูนย์ซ่อมโทรศัพท์มือถือ

ถ้าหากทำตามวิธีข้างต้นหมดแล้ว แต่ปัญหาก็ยังอยู่ แก้ไม่หายสักที นั่นก็อาจเป็นเพราะปัญหาเกิดจากด้านฮาร์ดแวร์ ไม่ว่าจะเป็นแบตเตอรี่หรือส่วนอื่น ๆ ภายในตัวเครื่อง ก็คงต้องใช้วิธีสุดท้ายคือส่งเครื่องให้ศูนย์บริการซ่อมมือถือ แต่ถ้าหากเป็นเครื่องที่หมดประกันหรือเก่ามากแล้ว ซ่อมไม่คุ้ม ก็อาจลองพิจารณาดูว่าจะซื้อมือถือใหม่เลยดีไหม

ร้านซ่อมโทรศัพท์มือถือเชียงใหม่ ไอโฟน ไอแพดเชียงใหม่ Byช่างเอกCM Mobile

  • ทุกขั้นตอนการเปลี่ยนอะไหล่ หรือการซ่อม ลูกค้าจะได้รับการแจ้งรายละเอียดอะไหล่และราคาที่ชัดเจน
  • ทีมงานของเรามีความเชี่ยวชาญในการซ่อมโทรศัพท์และแท็บเล็ตทุกรุ่น และก็ทุกอาการ
  • มีความเชี่ยวชาญในงานซ่อมมือถือโดยเฉพาะ
  • ไม่มีการย้อมแมวใช้อะไหล่เทียบ แล้วแจ้งเป็นอะไหล่แท้
  • แก้ไขตรงจุด ไม่มั่ว บอร์ดไม่ช้ำ ข้อมูลอยู่ครบ
  • ซ่อมด้วยความระมัดระวัง

ถ้าทำตามวิธีข้างต้นแล้ว แต่ยังเกิดปัญหาอยู่ ยังแก้ไม่หาย อาจจะเกิดปัญหาจากภายในตัวเครื่อง ห้ามทำการแกะหรือซ่อมเครื่องด้วยตัวเองเด็ดขาดเพราะจะทำให้ เครื่องมือถือของคุณเสียหายไปมากกว่าเดิม แนะนำให้ส่งที่ศูนย์บริการซ่อมถ้ายังไม่หมดประกันของเครื่อง แต่ถ้าหมดประกันแล้ว ให้ส่งซ่อมกับร้านซ่อมโทรศัพท์มือถือที่เชื่อถือได้  และมีประสบการณ์จะดีกว่า


รีวิวงานซ่อมจริง ที่ลูกค้าส่งซ่อมกับร้าน Tace care service

ร้านซ่อมโทรศัพท์มือถือเชียงใหม่ ไอโฟน ไอแพดเชียงใหม่ By ช่างเอก CM Mobile

ติดต่อ Take Care  Service ได้ที่
ชั้น3 ติดๆกับลิฟต์แก้วขึ้นลิฟต์แก้วมาอยู่ซ้ายมือ

เซ็นทรัลเชียงใหม่ แอร์พอร์ต (ห้องtemp362/1)
เลขที่2 252-252/1 ถนน.มหิดล ตำบล.หายยา
อำเภอ.เมืองเชียงใหม่ จังหวัด.เชียงใหม่ 50100
TEL. 090-526-6789  ช่างเอก
          095-849-4638  พัช

เปิดบริการทุกวัน
วันจันทร์ – วันศุกร์
เปิดบริการเวลา 11:00 น. – 21:00 น.

วันเสาร์ – วันอาทิตย์ – วันหยุดนักขัตฤกษ์
เปิดบริการเวลา 10:00 น. – 21:00 น.

ที่คนค้นหาเกี่ยวกับเนื้อหานี้ :

Continue Readingโทรศัพท์พังเปิดไม่ติด ทำอย่างไรดี ซ่อมได้ไหม

6 ข้อ ควรปฏิบัติเบื้องต้นที่ต้องรีบทำทันที หากโทรศัพท์ตกน้ำ หน้าจอช็อต ให้รีบทำตาม!!!

“โทรศัพท์” ส่วนใหญ่ในช่วงฝนตกหลายครั้งมักจะต้องเผชิญกับปัญหาโทรศัพท์มือถือตกน้ำ หรือเปียกฝน ทั้งนี้ แม้บางรุ่นจะออกแบบมาเพื่อสามารถป้องกันน้ำได้ แต่ก็ยังมีรุ่นที่ยังไม่มีคุณสมบัตินั้น ทำให้โทรศัพท์มีโอกาสที่จะเกิดการเสียหายจากน้ำได้ ถ้าคุณโชคร้ายโทรศัพท์ของคุณเปียกฝน หรือตกลงน้ำ อย่ารีบตกใจ วันนี้ ร้านซ่อมโทรศัพท์มือถือเชียงใหม่ ไอโฟน ไอแพดเชียงใหม่ Byช่างเอก CM Mobile เรามีเคล็ดลับและวิธีการที่จะช่วยให้โทรศัพท์ของคุณสามารถกลับมาใช้งานได้อีกครั้ง!

 

6 ข้อ ควรปฏิบัติเบื้องต้นที่ต้องรีบทำทันที หากโทรศัพท์ตกน้ำ หน้าจอช็อต

การตกน้ำของโทรศัพท์มือถือนั้นเป็นสิ่งที่ไม่ควรเกิดขึ้น แต่หากเกิดขึ้นแล้ว มีวิธีบางวิธีที่คุณควรดำเนินการโดยเร็วเพื่อป้องกันความเสียหายต่อเครื่องมือถือของคุณ ดังนี้

1. หากโทรศัพท์ตกน้ำให้รีบนำขึ้นทันที

เมื่อโทรศัพท์มือถือของคุณตกลงในน้ำ ควรโทรศัพท์ขึ้นมาทันทีอย่างรวดเร็ว เนื่องจากถ้าปล่อยให้แช่ในน้ำนาน อาจทำให้อุปกรณ์ในเครื่องได้รับความเสียหาย เช่น น้ำซึมเข้าลําโพง จอภาพขัดข้อง หรือเครื่องไม่สามารถเปิดตัวได้ ดังนั้นการดำเนินการเร็วๆ เป็นสิ่งที่สำคัญเพื่อป้องกันความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นต่อไป

2. ห้ามเปิด หรือปิดโทรศัพท์เด็ดขาด

เชื่อว่ามีหลายคนเข้าใจผิดว่า หากโทรศัพท์หน้าจอดับหลังจากตกน้ำจะต้องรีบเปิดเครื่องทันที อันนี้ถือเป็นข้อห้ามเด็ดขาด!! เพราะการเปิด-ปิดเครื่องขณะที่เครื่องยังมีความเปียกชื้นอยู่ รวมถึงกดปุ่มฟังก์ชั่นอื่นๆ จะทำให้ระบบไฟฟ้าภายในช็อต หรือลัดวงจรได้ ซึ่งอาจจะทำให้โทรศัพท์มือถือของคุณพังหนักกว่าเดิม

3. เช็ดโทรศัพท์ให้แห้ง

เมื่อรู้ตัวว่าโทรศัพท์เปียกน้ำไม่ว่าจะมากหรือน้อยก็ตาม ควรใช้กระดาษหรือผ้าซับน้ำบนตัวเครื่องจนแห้งสนิท เพราะหากปล่อยทิ้งไว้ยิ่งมีโอกาสที่น้ำและความชื้นจะเข้าไปภายในตัวเครื่องได้มากขึ้น อย่างไรก็ตาม ขั้นตอนที่แนะนำไว้นี้เป็นเพียงแนวทางพื้นฐาน ความเสียหายที่จะเกิดขึ้นกับโทรศัพท์ของคุณขึ้นอยู่กับความรุนแรงและสภาพของการตกน้ำ หากคุณไม่แน่ใจเกี่ยวกับสภาพของโทรศัพท์ ควรนำไปให้มืออาชีพตรวจสอบ

4. ใช้ไดร์เป่าผมเป่าโทรศัพท์ให้แห้ง

เมื่อโทรศัพท์เปียกน้ำ สามารถใช้ไดร์เป่าผมในโหมดลมเย็นเพื่อแก้ปัญหาความชื้นที่ซอกมุมต่างๆ แต่ควรเป่าอย่างระมัดระวังและไม่ใช้ลมร้อนเพราะอาจทำอันตรายต่อวงจรภายใน. หลังจากนั้น, ใช้ผ้าซับน้ำแห้งเพื่อทำความสะอาดพื้นผิวอีกครั้ง

5. ใส่ถังข้าวสาร

เมื่อมือถือและอุปกรณ์ต่าง ๆ เริ่มแห้งพอสมควรแล้ว ให้นำไปวางทิ้งไว้ในถังข้าวสารหรือในถุงพลาสติกที่บรรจุซิลิก้าเจลหรือสารกันความชื้นที่เราแอบเก็บสะสมมาจากถุงขนมต่าง ๆ เพื่อช่วยดูดความชื้นที่อาจจะยังหลงเหลืออยู่ในส่วนของอุปกรณ์ที่ไม่สามารถเข้าถึงได้ โดยทิ้งไว้ประมาณ 2-3 วัน เพื่อให้แน่ใจว่าความชื้นได้หายไปหมดแล้วจริง ๆ

6. หากมือถือแห้งแล้ว ลองเช็กอีกครั้ง

หลังจากดูดความชื้นจากโทรศัพท์, ลองเปิดเครื่องแล้วตรวจสอบฟังก์ชั่นต่างๆ เช่น หน้าจอ, ลำโพง, และปุ่มกด เป็นต้น. หากพบปัญหา, ควรนำไปยังศูนย์บริการเพื่อตรวจสอบความเสียหายต่อไป

ร้านซ่อมโทรศัพท์มือถือเชียงใหม่ ไอโฟน ไอแพดเชียงใหม่ Byช่างเอกCM Mobile

  • ทีมงานมืออาชีพ มีประสบการณ์ในการซ่อมมือถือทุกอาการมาอย่างยาวนาน มีความเชี่ยวชาญในงานซ่อมโดยเฉพาะ
  • มีเครื่องมือที่ทันสมัยมากที่สุด
  • ไม่มีการย้อมแมวใช้อะไหล่เทียบ แล้วแจ้งเป็นอะไหล่แท้
  • ตรวจเช็คและประเมินราคาให้ก่อนทุกครั้ง

หลังจากปฏิบัติตามข้อแนะนำเหล่านี้ แนะนำให้พาโทรศัพท์ไปหาช่างซ่อมที่มีความเชี่ยวชาญ เพื่อตรวจสอบและประเมินความเสียหายที่เกิดขึ้น จงจำไว้ว่า การรีบร้อนในการนำโทรศัพท์กลับมาใช้งานหลังจากตกน้ำ อาจทำให้เครื่องเสียหายอย่างถาวร ดังนั้นควรมีความรอบคอบและใช้วิจารณญาณในการจัดการกับสถานการณ์นี้!


รีวิวงานซ่อมจริง ที่ลูกค้าส่งซ่อมกับร้าน Tace care service

ร้านซ่อมโทรศัพท์มือถือเชียงใหม่ ไอโฟน ไอแพดเชียงใหม่ By ช่างเอก CM Mobile

ติดต่อ Take Care  Service ได้ที่
ชั้น3 ติดๆกับลิฟต์แก้วขึ้นลิฟต์แก้วมาอยู่ซ้ายมือ

เซ็นทรัลเชียงใหม่ แอร์พอร์ต (ห้องtemp362/1)
เลขที่2 252-252/1 ถนน.มหิดล ตำบล.หายยา
อำเภอ.เมืองเชียงใหม่ จังหวัด.เชียงใหม่ 50100
TEL. 090-526-6789  ช่างเอก
          095-849-4638  พัช

เปิดบริการทุกวัน
วันจันทร์ – วันศุกร์
เปิดบริการเวลา 11:00 น. – 21:00 น.

วันเสาร์ – วันอาทิตย์ – วันหยุดนักขัตฤกษ์
เปิดบริการเวลา 10:00 น. – 21:00 น.

ที่คนค้นหาเกี่ยวกับเนื้อหานี้ :

Continue Reading6 ข้อ ควรปฏิบัติเบื้องต้นที่ต้องรีบทำทันที หากโทรศัพท์ตกน้ำ หน้าจอช็อต ให้รีบทำตาม!!!